วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ขนมไทยสู่ตลาดโลก

ขนมไทย
ปัจจุบัน ขนมไทย ก้าวไกลสู่ตลาดนานาประเทศทั่วโลกสามารถทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทยของเราอีกทางหนึ่ง เช่น ขนมไทย จาก บ้านขนมไทยนพวรรณ ของอาจารย์นพวรรณ จงสุขสันติกุล
เมื่อพูดถึงขนมไทย หลายคนอาจนึกถึงความหวานมันของกะทิ และความหวานของน้ำตาล ซึ่งมีผลต่อสุขภาพมากมาย แต่ถ้าพูดถึง ขนมไทยเพื่อสุขภาพ หลายคนอาจสงสัยว่า ความหวานกับความมัน จะดีต่อสุขภาพได้อย่างไร? แต่อาจารย์นพวรรณทำได้ โดยพัฒนา รูปแบบ และดัดแปลงความหวาน ด้วยการใช้ ความหวานจากผลไม้ ส่วน ความมันกะทิ ก็ลดปริมาณลงแล้วใส่ข้าวบาร์เลย์แทนหรือการนำ พืชผัก และสมุนไพร มาเป็นส่วนผสมด้วย เช่น ดอกอัญชันแทน สีน้ำเงิน ดอกคำฝอยแทน สีแดง ใบเตยแทน สีเขียว หรือ ใส่งาดำ เพิ่มคุณค่าอาหาร ทำให้เกิด ขนมไทย รูปแบบใหม่ ที่มีความอร่อยลงตัว และ ส่งผลดีต่อสุขภาพได้ด้วย บ้านขนมไทยนพวรรณ มีขนมให้เลือกมากมายกว่า ๑๐๐ ชนิด ด้วยการผลิตที่สดใหม่ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำชื่อเสียงให้กับบ้านขนมไทย เน้นการจัดตกแต่งและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทำให้ขนมไทยนพวรรณ มีชื่อเสียงและขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศในรูปแบบแฟรนไชส์ ที่มีมาตรฐานและคุณภาพ ช่วยให้ท่านสามารถเลือกใช้ขนมไทยในโอกาสพิเศษ เช่น งานเลี้ยงต่างๆ หรือการประชุม หรือเป็นของขวัญของฝากผู้ใหญ่ ญาติสนิทมิตรสหายได้ทุกเทศกาล หรือจะทำเป็นธุรกิจ SME ส่วนตัว ก็สามารถทำได้
ขนมไทย OTOP มีแววรุ่งตลาดเอเชีย
ผลการวิจัยเรื่องการจัดการเพื่อพัฒนายุทธศาสตร์อุตสาหกรรมขนมไทย OTOP เพื่อการส่งออกโดยนางเอื้อมพร เธียรหิรัญ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและฝ่ายต่างประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ชี้ว่า จากการจัดอันดับของผู้ค้าผลิตภัณฑ์ขนมไทย OTOP ในประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์ พบว่า สินค้าของไทยถูกจัดว่าได้รับความนิยมอยู่ในอันดับที่ 3 โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าว อาทิ ข้าวแต๋น และขนมทองม้วน สามารถทำรายได้รวมกับยอดขายในประเทศได้รวมกันปีละ 5-6 ล้านบาท ในปี 2549
ตัวอย่าง “ ขนมไทย ”
       ขนมไข่ในรัง                              ขนมเม็ดขนุน
           

          ขนมฝอยทอง                           ขนมทองเอกหรือจ่ามงกุฎ
     
                     ขนมทองหยิบ                                       ขนมชั้น
     
           
การวิเคราะห์ตลาด
การวิเคราะห์อุตสาหกรรมและการวิเคราะห์ตลาด
สภาวะตลาด  
ตลาดขนมไทย จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นสำคัญก็คือกระแสความนิยม ขนมไทย - อาหารว่าง ที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ และความตื่นตัวที่รักษากิจการของตัวเอง
การวิเคราะห์สถานการณ์ : จุดแข็ง - จุดอ่อน (Swot Analysls)
สถานการณ์ภายใน
จุดแข็ง (Strength)
   1. มีความรู้ - ความสามารถเฉพาะตัวในการผลิตขนมไทย - อาหารว่างและริเริ่มสร้างสรรค์ของใหม่เรื่อยๆ
   2. ทีมงานเข้มแข็งร่วมกันรับผิดชอบ ไม่ให้เกิดความผิดพลาด
   3. มีฐานลูกค้าเก่าสมัย ที่เป็นคนไทยในประเทศจีนที่ชื่นชอบขนมไทย
   4. มีฐานลูกค้าใหม่ เช่น โรงแรมต่างๆในประเทศจีน
   5. ลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความเชื่อถือ เพราะเป็นฝีมือของคนไทยโดยตรง
   6. การซื้อวัตถุดิบได้รับเครดิตจากร้านค้า
จุดอ่อน (Weakness)
   1. บางครั้งวัตถุดิบ เช่น ใบเตย ใบตอง เก็บไว้ได้ไม่นาน
   2. บรรจุภัณฑ์ ยังไม่ดีพอ
   3. ขนมไทย บางอย่างเก็บไว้ไม่ได้นาน
   4. การผลิตขนมสดใช้ฝีมือประณีต จึงรับลูกค้าได้จำนวนจำกัด


การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก (External Situation)
โอกาส(Opportunost)
   1.มีการออกแบบแพ็คเก็จเหมาะสมกับวาระเทศกาลต่างๆ
   2.ในเทศกาลต่างๆ : วันปีใหม่ วันแห่งความรัก วันตรุษจีน และประเพณีปฏิบัติให้ส่วนลด
   3. มีรูปลักษณ์เฉพาะตัว โดยที่ลูกค้าไม่เกี่ยงราคา
   4. มีโอกาสหาลูกค้าตลาดบนได้สูง

อุปสรรค
   1.ผลิตภัณฑ์ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ
   2.เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ตอนนี้ไม่แน่นอน การใช้เงินต้องใช้เวลาตัดสินใจนาน
   3. กำลังการซื้อลดลง
   4. ต้องใช้เทคโนโลยีช่วยในการบรรจุภัณฑ์
   5. สินค้าบางอย่างต้องผลิตด้วยมือ ทำให้การผลิตบางครั้งไม่เพียงพอ
   6. มีคู่แข็งในตลาดเพิ่มขึ้นตลอดเวลา



แหล่งที่อ้างอิง


9 ความคิดเห็น:

  1. เนื้อหาดีมากเลยคะ น่าสนใจดี พื้นหลังสวยงามค้า

    ตอบลบ
  2. ดูน่ากินมาก เลยขนมไทยเรา

    เนื้อหาน่าสนใจ

    ตอบลบ
  3. เนื้อหาน่าสนใจดีนะ น่ากินจังเลย

    ตอบลบ
  4. เนื้อหาน่าสนใจ

    การตกแต่งสวยดีจ๊ะ

    ตอบลบ
  5. วิเคราะห์ SWOT ตรงจุดดีค่ะ

    ตอบลบ